คู่มือท่องเที่ยวเซ็นได

1. สุสานซุยโฮเด็น (Zuihoden)

สุสานของไดเมียว Date Masamune สร้างปี 1637 เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเซ็นได

สถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะอันวิจิตร ประดับด้วยงานแกะสลักสีสันสดใสและแผ่นทองคำ

ตั้งอยู่ในพื้นที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่

2. ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle)

ซากปราสาทที่ Date Masamune สร้างขึ้นปี 1600 ตั้งอยู่บนภูเขาอาโอบะ

แม้เหลือเพียงกำแพงหิน แต่รูปปั้นขี่ม้าของ Date Masamune และวิวพาโนรามาของเมืองเซ็นไดจากยอดเขาก็น่าประทับใจ

พิพิธภัณฑ์ปราสาทอาโอบะใกล้ๆ จัดแสดง artifacts จากยุคสงคราม

3. มัตสึชิมะ (Matsushima)

ห่างจากเซ็นได 30 นาทีโดยรถยนต์ อ่าวมัตสึชิมะได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น

มีเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 260 เกาะปกคลุมด้วยต้นสน

ไฮไลท์รวมถึงล่องเรือชมวิว วัด Zuiganji และวัด Entsuin

4. ศาลเจ้าออซากิ ฮาจิมัง (Osaki Hachimangu Shrine)

สร้างโดย Date Masamune ปี 1607 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นปี 1952

สถาปัตยกรรมไม้ลงรักดำประดับทองคำดูยิ่งใหญ่

งานเทศกาล "Donto" วันที่ 14 มกราคม ที่มีการเผาแท่งไม้สวดมนต์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย

5. น้ำตกใหญ่อาคิว (Akiu Great Falls)

หนึ่งใน 100 น้ำตกสวยที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ชานเมืองเซ็นได

น้ำตกสูง 55 เมตรล้อมรอบด้วยป่าเขียวขจี

nearby ออนเซ็นอาคิวเหมาะสำหรับทริปวันเดียวที่ผ่อนคลาย

6. วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

วัดเซนกลางเมืองเซ็นได มีชื่อเสียงจากเจดีย์ 3 ชั้นและสวนญี่ปุ่นสวยงาม

ดอกไม้ตามฤดูกาล (ซากุระฤดูใบไม้ผลิ บัวฤดูร้อน และเมเปิลแดงฤดูใบไม้ร่วง) เพิ่มความสวยงาม

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบ

7. ถนนโจเซนจิ-โดริ (Jozenji-dori Avenue)

สัญลักษณ์ของ "เมืองแห่งต้นไม้" ของเซ็นได เรียงรายด้วยต้น Zelkova 160 ต้น

งาน "Starry Night Parade" เดือนธันวาคม ประดับไฟกว่า 600,000 ดวง สร้างบรรยากาศโรแมนติก

8. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซ็นได อุมิโนะโมริ (Sendai Umino-Mori Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโมเดิร์นแสดงตู้ปลากว่า 100 ตู้

มีการแสดงโลมาและกิจกรรมสัมผัสแมวน้ำ

โซนสัมผัสกระรอกทำให้เหมาะสำหรับครอบครัว

9. พิพิธภัณฑ์เมืองเซ็นได (Sendai City Museum)

จัดแสดง artifacts กว่า 90,000 ชิ้นเกี่ยวกับตระกูล Date และประวัติศาสตร์เซ็นได

รวมถึงเกราะจำลองของ Date Masamune

มีโซนให้ลองสวมหมวกยุคสงคราม เหมาะสำหรับคนรักประวัติศาสตร์

10. จุดชมวิว AER (AER Observation Deck)

อยู่ชั้นบนสุดของตึก AER 31 ชั้นใกล้สถานีเซ็นได

จุดชมวิวฟรีที่มองเห็นเมืองเซ็นได มหาสมุทรแปซิฟิก และเทือกเขา Ou

แสงไฟยามค่ำคืนสวยงามเป็นพิเศษ

1. กิวทาน (ลิ้นวัวย่าง): อาหารขึ้นชื่อที่สุดของเซ็นได กำเนิดปี 1948 หลังสงคราม เมื่อเจ้าของร้านนำลิ้นวัวที่ทหารอเมริกันทิ้งมาทำเป็นอาหารย่าง ปัจจุบันมีร้านเสิร์ฟกว่า 100 แห่ง เนื้อนุ่มแต่กรอบ เค็มกลมกล่อมจากเกลือ มิโสะ หรือซีอิ๊ว มักเสิร์ฟเป็นเซตกับข้าวบาร์เลย์ ซุปหางวัว และผักดอง (ร้านแนะนำ: "ริคิว" หรือ "อจิ ทาสึเกะ" ที่ "ถนนกิวทาน" สถานีเซ็นได)

2. ซุนดะโมจิ: ของหวานเอกลักษณ์เซ็นได ทำจากถั่วเอะดะมะเมะบดเป็นครีมหวาน ห่อด้วยโมจิเหนียวนุ่ม รสชาติสดชื่นหวานอ่อนๆ มีแบบสมัยใหม่เป็นมิลค์เชค เค้ก และไอศกรี (ร้านแนะนำ: "มุระคามิยะ โมจิเทน" หรือ "ซุนดะ ซาเรียว" ที่สถานีเซ็นได)

3. ซาซะ คามาโบโกะ (เค้กปลารูปใบไผ่): เค้กปลารูปใบไม้ไผ่ เนื้อเด้งได้ใจ มีรสหวานจากทะเล ทานแบบสดหรือย่างเบาๆ แบบใหม่มีไส้ชีสหรือลิ้นวัว ( ร้านแนะนำ: "อาเบะ คามาโบโกะ-เทน" ใกล้สถานีเซ็นได)

4. เซริ นาเบะ (หม้อไฟใบเซริ): อาหารฤดูหนาวต้องลอง ใช้ใบเซริ (พืชคล้ายผักชี) ของมิยางิ ตุ๋นในน้ำซุปซีอิ๊วกับไก่หรือเป็ด รากกรอบ ใบนุ่ม มีคุณค่าทางอาหารสูง (ร้านแนะนำ: "เซริโซอัง" ใกล้สถานีเซ็นได)

5. ฮาราโกะ เมชิ (ข้าวปลาแซลมอนและไข่ปลา) : อาหารฤดูใบไม้ร่วง ใช้ปลาแซลมอนสดและไข่ปลา หุงกับน้ำซุปแซลมอน รสชาติเข้มข้นจากท้องปลาและไข่ปลาแตกในปาก เล่ากันว่า Date Masamune ชื่นชอบ (ร้านแนะนำ: ร้านอิซากายะในเขตโคคุบุนโจ)

6. ซันคาคุ-อาเงะ (เต้าหู้ทอดสามเหลี่ยม): ของดีใกล้ถนนโจเซนจิ-โดริ เต้าหู้หนา 2 ซม. ทอดกรอบนอกนุ่มใน โรยชิจิมิและซีอิ๊ว รสชาติน้ำเต้าหู้ชุ่มฉ่ำ (ร้านแนะนำ: "โจงิ โทฟูช็อป" หรือ "โอเด็ง ซันคิจิ" หน้าถนนโจเซนจิ-โดริ)

7. อุเม็งชิโรอิชิ (ก๋วยเตี๋ยวอุ่น) : อาหารดั้งเดิมจากเมืองชิโรอิชิ เส้นสั้นประมาณ 9 ซม. เบาๆ ไม่มีน้ำมัน คิดค้นเมื่อ 400 ปีก่อนโดยลูกชายเพื่อพ่อที่ป่วย ทานกับน้ำซุปร้อนหรือจิ้มซอสแบบเย็น (ร้านแนะนำ: "ชิโรอิชิ อุเม็ง สึริงัน อัง" ในเมืองชิโรอิชิ)

8. ฮิยาชิ จูกะ (ก๋วยเตี๋ยวจีนเย็น) :เซ็นไดถูกกล่าวว่าเป็นต้นกำเนิด (แม้จะยังถกเถียง) เส้นบางราดซอสเปรี้ยวหวาน ใส่แฮม แตงกวา และไข่เส้น มีทั้งปี ทั้งแบบซีอิ๊วและงา (ร้านแนะนำ: "เรียวเทอิ")

9. หอยนางรม: มิยางิเป็นผู้ผลิตหอยนางรมอันดับ 2 ของญี่ปุ่น หอยจากมัตสึชิมะและชิโอกามาเนื้อแน่นหวาน ทานสด ย่าง ทอด หรือในหม้อไฟ หวานที่สุดฤดูหนาว (ร้านแนะนำ: "ตลาดอาหารทะเลมัตสึชิมะ" หรือ "ตลาดเช้าเซ็นได" ใกล้สถานีเซ็นได)

10. ฮโยตัน อาเงะ (ลูกชิ้นปลาทอดรูปน้ำเต้า) : อาหารข้างทางขึ้นชื่อของเซ็นได ลูกชิ้นปลาชุบแป้งทอดรูปน้ำเต้า เสียบไม้ทานกับซอสมะเขือเทศ กรอบนอกนุ่มใน เริ่มขายครั้งแรกในงานเทศกาลอาโอบะปี 1985 (ร้านแนะนำ: ร้านหลัก "อาเบะ คามาโบโกะ-เทน" ในย่านช้อปปิ้งคลิสโร้ด)

1. ฮางิ โนะ สึกิ (Hagi no Tsuki)

วากาชิขึ้นชื่อของเซ็นได สร้างสรรค์โดย Kasho Sanzen ในปี 1979

เป็นขนมสปันจ์เค้กเนื้อนุ่มห่อครีมคัสตาร์ดเข้มข้น รูปร่างคล้ายพระจันทร์เต็มดวง ละลายในปาก

บรรจุกล่องของขวัญสวยงาม เหมาะเป็นของฝากชั้นดี

• จุดซื้อ: ร้าน Kasho Sanzen ชั้น B1 ศูนย์การค้า S-PAL สถานีเซ็นได

2. ซุนดะโมจิ (Zunda Mochi)

หนึ่งในสามของขึ้นชื่อเซ็นได ทำจากถั่วเอะดะมะเมะพันธุ์พิเศษของมิยางิ

บดเป็นครีมเนียน ห่อด้วยโมจิเหนียวนุ่ม ให้รสหวานสดชื่นไม่เลี่ยน

นอกจากแบบดั้งเดิม ยังมีซุนดะไดฟูกุและซุนดะมิลค์เชค

• จุดซื้อ: ร้าน Murakami-ya Mochi Shop 2-38 คิโตเมะ-โจ เขตอาโอบะ เซ็นได

3. ซาซาคามะ คามาโบโกะ (Sasakama Kamaboko)

หนึ่งในสามของขึ้นชื่อเซ็นได เป็นเค้กปลารูปใบไผ่ย่าง

เนื้อนุ่มมีรสชาติทะเลสดชื่น มีทั้งแบบต้นตำรับ แบบชีส และแบบไส้ลิ้นวัว

บรรจุสูญญากาศ พกพาสะดวก

• จุดซื้อ: ร้าน Abe Kamaboko สาขาหลัก 2-3-18 ชูโอ เขตอาโอบะ เซ็นได

4. เซ็นได ดากาชิ (Sendai Dagashi)

ขนมอายุ 300 ปี ผลิตโดย Hitachiya แบบไม่ใช้สารกันเสีย

มี 10 รสคลาสสิก เช่น ลูกบอลถั่วแดง ขนมมิ้นต์ และขนมมิโสะ

บรรจุภัณฑ์สไตล์วินเทจน่ารัก

• จุดซื้อ: ร้าน Hitachiya ชั้น B1 ศูนย์การค้า S-PAL สถานีเซ็นได

5. ตุ๊กตาโคเคชิ - ร้าน Hiraga Kokeshi

หัตถกรรมของเซ็นได ตุ๊กตาไม้ไม่มีแขนขา

ลายกิโมโนสวยงาม สื่อถึงความโชคดี มีขนาดตั้งแต่ 3 ซม. ถึง 60 ซม.

แบบมินิเหมาะเป็นของฝาก

• จุดซื้อ: ร้าน Hiraga Kokeshi 13 โมโตกิ ซากูนามิ เขตอาโอบะ เซ็นได

6. สาเกเซ็นได - nuevo by BUNMEIDO

ผลิตจากข้าวและน้ำบริสุทธิ์ของมิยางิ

"Ichinokura Himezen" (8% ABV) มีกลิ่นผลไม้ เหมาะสำหรับมือใหม่

"Katsuyama Sensho Masamune" มีรสเข้มข้น เกี่ยวข้องกับ Date Masamune

• จุดซื้อ: ร้าน Yoshiokaya หรือร้าน Ichinokura Brewery ชั้น B1 ศูนย์การค้า S-PAL สถานีเซ็นได

7. คิกุฟูกุ ไดฟูกุ (Kikufuku Daifuku)

ไดฟูกุขึ้นชื่อเซ็นได ไส้ถั่วแดงหรือซุนดะ

ผสมครีมมัทฉะหรือโฮจิฉะ ให้รสหวานสมดุล เนื้อนุ่ม

มีแบบแช่แข็งเพื่อความสะดวกในการขนส่ง

• จุดซื้อ: ร้าน Kikusui-an ท่าอากาศยานเซ็นได

8. เครื่องเขินทามามูชิ (Tamamushi Lacquerware)

หัตถกรรมเครื่องเขินของเซ็นได

พื้นผิวแวววาวเหมือนปีกแมลงทามามูชิ

มีทั้งเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ที่คั่นหนังสือ และโปสการ์ด

• จุดซื้อ: ห้าง Fujisaki 3-2-17 อิชิบัง-โจ เขตอาโอบะ เซ็นได

9. เครื่องรางโอนิกิริ ซามูไร (Onigiri Samurai Charm)

เครื่องรางน่ารักรูปข้าวปั้นสวมหมวกเกราะจันทร์เสี้ยวของ Date Masamune

มีทั้งพวงกุญแจ ผ้าเช็ดตัว และเสื้อยืด ราคาประหยัด

• จุดซื้อ: ร้าน Kasho Sanzen ชั้น B1 ศูนย์การค้า S-PAL สถานีเซ็นได

10. เครื่องรางยูกิมารุ (Yukimaru Charm)

เครื่องรางรูปข้าวปั้นสวมหมวกเกราะจันทร์เสี้ยวของ Date Masamune

มีทั้งพวงกุญแจ ผ้าเช็ดตัว และเสื้อยืด ราคาย่อมเยา

• จุดซื้อ: ร้าน Kasho Sanzen ชั้น B1 ศูนย์การค้า S-PAL สถานีเซ็นได

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม):
อุณหภูมิ: 5-18°C สภาพอากาศอบอุ่น เดือนเมษายนเป็นฤดูซากุระบาน ปริมาณฝนปานกลาง (100-130mm) เสื้อผ้าแนะนำ: เสื้อแจ็กเก็ตบาง พกร่ม เหมาะสำหรับชมซากุระที่ปราสาทอาโอบะ

ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม):
อุณหภูมิ: 18-28°C ชื้นและมีฝนในเดือนมิถุนายนเนื่องจากฤดูฝน (150-200mm) ร้อนชื้นในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม อาจมีไต้ฝุ่น เสื้อผ้าแนะนำ: เสื้อแขนสั้น ครีมกันแดด เหมาะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในร่มเช่นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหรือร่วมงานเทศกาลทานาบาตะ

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน):
อุณหภูมิ: 10-23°C เย็นและแห้ง (80-120mm) เดือนพฤศจิกายนเหมาะที่สุดสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี เสื้อผ้าแนะนำ: เสื้อแขนยาว แจ็กเก็ตบาง กิจกรรมแนะนำ: ชมใบเมเปิลที่น้ำตกอาคิวหรือร่วมงานเทศกาลแจ๊สเซ็นได

ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์):
อุณหภูมิ: 0-8°C หนาว มีหิมะตกเล็กน้อย (40-80mm) เสื้อผ้าแนะนำ: เสื้อกันหนาว รองเท้ากันลื่น เหมาะสำหรับแช่ออนเซ็น (เช่น ซากูนามิออนเซ็น) หรือชมงาน Sendai Pageant of Starlight